Title
แนวป้อมเมืองเก่า เพชรบุรี : สรุปผลเบื้องต้นการขุดตรวจสอบทางโบราณคดี
Creator
จิรนันท์ คอนเซพซิออน
Contributor
กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี
Description
สำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี โดยกลุ่มโบราณคดี ได้ดำเนินการขุดตรวจทางโบราณคดีเพื่อหาร่องรอยหลักฐานเกี่ยวกับกำแพงเมืองเพชรบุรี รวมระยะเวลา 27 วัน บริเวณที่ดำเนินการขุดตรวจอยู่ในพื้นที่ครอบครองของเอกขน คือ ครอบครัวบุญวานิข มี ดร.จันทิมา บุญวานิช เป็นผู้จัดการมรดก
จากการตรวจสอบบริเวณพื้นผิวดินพบเศษอิฐ ศิลาแลง และเศษภาชนะดินเผากระจายตัวอยู่โดยทั่วไป การกำหนดพื้นที่ขุดตรวจได้เลือกบริเวณพื้นที่ติดถนนมีลักษณะเป็นเนินลาดเอียงไปทางทิศตะวันออกขนาดพื้นที่ขุดคันมีขนาด 10 x 10 เมตร ซึ่งต่อมาได้พบหลักฐานเพิ่มเติมจึงขยายพื้นที่ออกไปอีกรวมเป็น 20 x 20 เมตร
ร่องรอยเมืองเพชรบุรีในปัจจุบัน
ร่องรอยเมืองเพชรบุรี บริเวณฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเพชรบุรีนี้ เป็นเมืองเก่า สันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยวัฒนธรรมเขมรโบราณด้วยสักษณะของเมืองเป็นผังรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวด้านละประมาณ 1 กิโลเมตร โดยแนวกำแพงเมืองที่ปรากฎแนวอยู่ในปัจจุบันคือ ถนนพาณิชย์เจริญ (ด้านทิศตะวันตก) ถนนท่าหิน (ด้านทิศใต้) ถนนพงษ์สุริยา (ด้านทิศเหนือ) และถนนสูง คือกำแพงด้านทิศตะวันออกหลักฐานยืนยันที่สำคัมของเมืองเพชรบุริในสมัยวัฒนธรรมเขมรนี้คือปราสาทขอมวัดกำแพงแลงในปัจจุบัน โดยเมืองนี้มีนามว่า ศรีชัยวัชรบุรี ตามที่ปรากฎในจาริกปราสาทพระขรรค์ ซึ่งพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงประดิษฐานพระชัยพุทธมหานาถไว้ที่หัวเมือง 23 แห่ง ดังนั้น เมืองเพชรบุรีโบราณนี้จึงมีผู้คนอยู่อาศัยมาไม่ต่ำกว่าพุทธศตวรรษที่ 18 แล้ว
ที่มาของชื่อ ถนนสูง มีที่มาจากลักษณะความสูงของถนน ที่เล่ากันว่าเวลาใช้เส้นทางนี้จะต้องเดินขึ้นเนินสูงราวครึ่งเสาไฟฟ้า สภาพแวดล้อมมีต้นสะแก้ขึ้นปกคลุม 2 ข้างทาง ตรงกลางช่องเปิดโล่งมองทะลุได้ตลอดแนวจึงเป็นที่มาของชื่อตำบลช่องสะแกต่อมาในปี พ.ศ.2473 เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในตลาดเพชรบุรึจึงมีการนำอิฐ และดินบริเวณถนนสูงนี้ไปปรับถมที่พื้นที่ในตลาดและบริเวณอื่นๆ จนระดับความสูงของถนนเหลือเท่าที่เห็นในปัจจุบัน
หลักฐานที่ค้นพบการขุดตรวจทางโบราณคดี
บริเวณที่ทำการขุดตรวจเป็นพื้นที่ต่อเนื่องจากถนนสูงปัจจุบันอยู่ในความครอบครองของเอกชน มีลักษณะเป็นเนินดินที่ยังไม่ถูกรบกวนจากกิจกรรมในปัจจุบันและพบเศษอิฐ เศษก้อนศิลาแลง และเศษภาชนะดินเผากระจายตัวอยู่บนพื้นผิว ผลการขุดตราจตลอด ๒ส วันพบร่องรอยหลักฐานสิ่งก่อสร้างที่สันนิษฐานว่าเป็นส่วนหนึ่งของ "ป้อม"ที่ยื่นออกมาจากแนวกำแพงและวางตัวเอียง 4ํ องศา มีขนาดความยาวไม่ต่ำกว่า 2 เมตร หนาประมาณ 8 เมตร มี "เอ็น" (โครงสร้างส่วนเสริมความมั่นคงส่วนฐานราก) ขนาดความหนา 5 เซนติเมตร จำนวน 2 แนว
การขุดตรวจครั้งนี้จำเป็นต้องหยุดดำเนินการก่อนเนื่องจากส่วนของป้อมยืนเข้าไปจนสุดริมรั้วซึ่งเป็นพื้นที่ของเอกชนรายอื่น สำหรับหลักฐานอื่นที่ได้จากการขุดตรวจ พบเศษภาชนะดินเผาจำนวนหนึ่งส่วนใหญ่เป็นภาชนะดินเผาเนื้อดิน และเศษภาชนะดินเผาเครื่องถ้วยจีนอีกเล็กน้อย ซึ่งขณะนี้สำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรีกำลังดำเนินการวิเคราะห์รวมถึงการนำตัวอย่างอิฐที่ได้ไปหาค่าอายุทางวิทยาศาสตร์เพื่อจะได้ทราบช่วงอายุของการก่อสร้างป้อมแห่งนี้
พื้นที่ดำเนินการ
บริเวณพื้นที่ริมถนนกำแพงเมืองเก่า ต.ช่องสะแก อ.เมือง จ.เพชรบุรี
ระยะเวลาดำเนินการ
วันที่ 15 มิถุนายน - 11 กรกฎาคม พ.ศ.2562
ผู้ปฏิบัติงาน
จากการตรวจสอบบริเวณพื้นผิวดินพบเศษอิฐ ศิลาแลง และเศษภาชนะดินเผากระจายตัวอยู่โดยทั่วไป การกำหนดพื้นที่ขุดตรวจได้เลือกบริเวณพื้นที่ติดถนนมีลักษณะเป็นเนินลาดเอียงไปทางทิศตะวันออกขนาดพื้นที่ขุดคันมีขนาด 10 x 10 เมตร ซึ่งต่อมาได้พบหลักฐานเพิ่มเติมจึงขยายพื้นที่ออกไปอีกรวมเป็น 20 x 20 เมตร
ร่องรอยเมืองเพชรบุรีในปัจจุบัน
ร่องรอยเมืองเพชรบุรี บริเวณฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเพชรบุรีนี้ เป็นเมืองเก่า สันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยวัฒนธรรมเขมรโบราณด้วยสักษณะของเมืองเป็นผังรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวด้านละประมาณ 1 กิโลเมตร โดยแนวกำแพงเมืองที่ปรากฎแนวอยู่ในปัจจุบันคือ ถนนพาณิชย์เจริญ (ด้านทิศตะวันตก) ถนนท่าหิน (ด้านทิศใต้) ถนนพงษ์สุริยา (ด้านทิศเหนือ) และถนนสูง คือกำแพงด้านทิศตะวันออกหลักฐานยืนยันที่สำคัมของเมืองเพชรบุริในสมัยวัฒนธรรมเขมรนี้คือปราสาทขอมวัดกำแพงแลงในปัจจุบัน โดยเมืองนี้มีนามว่า ศรีชัยวัชรบุรี ตามที่ปรากฎในจาริกปราสาทพระขรรค์ ซึ่งพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงประดิษฐานพระชัยพุทธมหานาถไว้ที่หัวเมือง 23 แห่ง ดังนั้น เมืองเพชรบุรีโบราณนี้จึงมีผู้คนอยู่อาศัยมาไม่ต่ำกว่าพุทธศตวรรษที่ 18 แล้ว
ที่มาของชื่อ ถนนสูง มีที่มาจากลักษณะความสูงของถนน ที่เล่ากันว่าเวลาใช้เส้นทางนี้จะต้องเดินขึ้นเนินสูงราวครึ่งเสาไฟฟ้า สภาพแวดล้อมมีต้นสะแก้ขึ้นปกคลุม 2 ข้างทาง ตรงกลางช่องเปิดโล่งมองทะลุได้ตลอดแนวจึงเป็นที่มาของชื่อตำบลช่องสะแกต่อมาในปี พ.ศ.2473 เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในตลาดเพชรบุรึจึงมีการนำอิฐ และดินบริเวณถนนสูงนี้ไปปรับถมที่พื้นที่ในตลาดและบริเวณอื่นๆ จนระดับความสูงของถนนเหลือเท่าที่เห็นในปัจจุบัน
หลักฐานที่ค้นพบการขุดตรวจทางโบราณคดี
บริเวณที่ทำการขุดตรวจเป็นพื้นที่ต่อเนื่องจากถนนสูงปัจจุบันอยู่ในความครอบครองของเอกชน มีลักษณะเป็นเนินดินที่ยังไม่ถูกรบกวนจากกิจกรรมในปัจจุบันและพบเศษอิฐ เศษก้อนศิลาแลง และเศษภาชนะดินเผากระจายตัวอยู่บนพื้นผิว ผลการขุดตราจตลอด ๒ส วันพบร่องรอยหลักฐานสิ่งก่อสร้างที่สันนิษฐานว่าเป็นส่วนหนึ่งของ "ป้อม"ที่ยื่นออกมาจากแนวกำแพงและวางตัวเอียง 4ํ องศา มีขนาดความยาวไม่ต่ำกว่า 2 เมตร หนาประมาณ 8 เมตร มี "เอ็น" (โครงสร้างส่วนเสริมความมั่นคงส่วนฐานราก) ขนาดความหนา 5 เซนติเมตร จำนวน 2 แนว
การขุดตรวจครั้งนี้จำเป็นต้องหยุดดำเนินการก่อนเนื่องจากส่วนของป้อมยืนเข้าไปจนสุดริมรั้วซึ่งเป็นพื้นที่ของเอกชนรายอื่น สำหรับหลักฐานอื่นที่ได้จากการขุดตรวจ พบเศษภาชนะดินเผาจำนวนหนึ่งส่วนใหญ่เป็นภาชนะดินเผาเนื้อดิน และเศษภาชนะดินเผาเครื่องถ้วยจีนอีกเล็กน้อย ซึ่งขณะนี้สำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรีกำลังดำเนินการวิเคราะห์รวมถึงการนำตัวอย่างอิฐที่ได้ไปหาค่าอายุทางวิทยาศาสตร์เพื่อจะได้ทราบช่วงอายุของการก่อสร้างป้อมแห่งนี้
พื้นที่ดำเนินการ
บริเวณพื้นที่ริมถนนกำแพงเมืองเก่า ต.ช่องสะแก อ.เมือง จ.เพชรบุรี
ระยะเวลาดำเนินการ
วันที่ 15 มิถุนายน - 11 กรกฎาคม พ.ศ.2562
ผู้ปฏิบัติงาน
- นางจิรนันท์ คอนเซพซิออน นักโบราณคดีชำนาญการ (หัวหน้าโครงการฯ)
- นางสาวกรรณิการ์ เปรมใจ นักโบราณคดีชำนาญการ
- นางสาวจารุวรรณ แย้มพราย ผู้ช่วยนักโบราณคดี
- นายจุลเกียรติ ไพบูลย์เกษม ผู้ช่วยนักโบราณคดี
- นางสาวชนัญชิตา กิจโฉ ผู้ช่วยนักโบราณคดี
- นางสาวพิมพ์นารา ปกรณ์ศิริกุล ผู้ช่วยนักโบราณคดี
- และลูกจ้างขุดค้นทางโบราณคดีชั่วคราวภายในท้องถิ่น
Subject
โบราณคดี
ประวัติศาสตร์ -- เพชรบุรี
กำแพงเมือง
ป้อม
เมืองเก่า
Coverage
เพชรบุรี
Source
กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร. (2563). แนวป้อมเมืองเก่า เพชรบุรี : สรุปผลเบื้องต้นการขุดตรวจสอบทางโบราณคดี. สืบค้น 12 ม.ค. 2566 จาก http://www.facebook.com/prfinearts
Publisher
สำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี
Date
26 ต.ค. 2563 (เผยแพร่)
Type
Still image
Format
Image/jpg
Language
tha
Rights
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นหน่วยงานทางการศึกษาไม่แสวงหาผลกำไร - ใช้สำหรับการศึกษา ค้นคว้า วิจัยเท่านั้น