พระราชประวัติรัชกาลที่ ๑๐
“พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”
พระราชสมภพ
พ.ศ. ๒๔๙๕ ทรงพระราชสมภพ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ บรมจักรยาดิศรสันตติวงศ์ เทเวศรธำรงสุบริบาลอภิคุณูประการมหิตลาดุลเดช ภูมิพลนเรศวรางกูรกิตติสิริสมบูรณสวางควัฒน์บรมขัตติยราชกุมาร”
พระราชพิธีสมโภชพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๕ กันยายน ทั้งพิธีพราหมณ์ พิธีสงฆ์ และถวายเห่กล่อม เมื่อทรงเจริญพระชนมายุได้ ๑ เดือน กับ ๑๘ วัน
การศึกษา
พ.ศ. ๒๔๙๙ ทรงเข้าศึกษาชั้นอนุบาลปีที่ ๑ เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๔๙๙ เมื่อพระชนมายุ ๔ พรรษา ณ โรงเรียนจิตรลดา
พ.ศ. ๒๕๐๙ การศึกษาในต่างประเทศ ทรงเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนคิงสมีด เมืองซีฟอร์ด แคว้นซัสเซกส์ ประเทศอังกฤษ
พ.ศ. ๒๕๑๓ ทรงศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนมิลล์ฟีลด์ เมืองสตรีท แคว้นซอมเมอร์เซทประเทศอังกฤษ
พ.ศ. ๒๕๑๕ ทรงเศึกษาต่อที่วิทยาลัยการชั้นสูง ณ กรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย
สมเด็จพระยุพราช
พ.ศ. ๒๕๑๕ ทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น “สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” พระองค์ที่ ๓ ของไทย โดยมีพระนามาภิไธย ตามจารึกพระสุพรรณบัฏว่า “สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร สิริกิตยสมบูรณสวางควัฒน์ วรขัตติยราชสันตติวงศ์ มหิตลพงศอดุลยเดช จักรีนเรศยุพราชวิสุทธ สยามมกุฎราชกุมาร” เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕
ทรงผนวช
พ.ศ. ๒๕๒๑ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๑ ทรงผนวช ณ วัดพระศรีรัตนราชศาสดาราม มีพระสมณนาม ว่า “วชิราลงกรโณ”และประทับ ณ พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนเวศราชวรวิหาร
ทรงมีพระปรีชาญาณ
พ.ศ. ๒๕๓๗ ทรงเป็น “เจ้าฟ้านักบินขับไล่ไอพ่น” พระองค์แรกแห่งราชวงศ์จักรี ทรงผ่านหลักสูตรการบินเฮลิคอปเตอร์ เครื่องบินขับไล่สมรรถนะสูง (F-5E) จากสหรัฐอเมริกา และทรงพระกรุณาปฏิบัติหน้าที่ครูการบินเครื่องบินขับไล่แบบ บ.ข. ๑๘ ข (F-๕E) และ บ.ข. ๑๘ ค (F-๕F) ของกองทัพอากาศ ตั้งแต่วันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๗
พ.ศ. ๒๕๕๓ จัดตั้งมูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร (ม.ท.ศ.)
พ.ศ. ๒๕๕๘ ทรงจักรยานพระที่นั่งนำขบวนในกิจกรรม ปั่นเพื่อแม่ Bile For Mon ๑๖ สิงหาคม ทรงจักรยานพระที่นั่งนำขบวนในกิจกรรม ปั่นเพื่อแม่ Bile For Dad ๑๑ ธันวาคม
เสด็จขึ้นทรงราชย์
พ.ศ. ๒๕๕๙ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงตอบรับคำกราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จฯ ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๑๐ ทรงมีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เฉลิมพระปรมาภิไธยว่า “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร”
พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส
พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑ พฤษภาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพระราชพิธีราชราชาภิเษกสมรสกับพลเอกหญิงสุทิดา วชิราลงกรณ์ ณ อยุธยา ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต และพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพลเอกหญิงสุทิดา วชิราลงกรณ์ ณ อยุธยา พระอัครมเหสี เป็น สมเด็จพระราชินีสุทิดา ต่อมาในการพระบรมราชาภิเษก มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนา สมเด็จพระราชินีสุทธิดา เป็น “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี”
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พ.ศ. ๒๕๖๒ ๔-๖ พฤษภาคม เป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามโบราณราชประเพณีที่พระมหากษัตริย์จะเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระพระมหากษัตริย์อย่างสมบูรณ์ หลังเข้าพิธีสรงพระมรุธาภิเษก ทรงรับน้ำอภิเษก และทรงสวมพระมหาพิชัยมงกุฎ ทรงเฉลิมปรมาภิไธยว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” และพระราชทานพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอดและครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” ๑๒ ธันวาคม เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
พระราชโอรสและพระราชธิดา
• สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี
• สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
• สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร