Title
Creator
Description
ศิลปะการแทงหยวก เป็นงานฝีมือที่สร้างสรรค์โดยช่างผู้ชำนาญ ใช้วัสดุธรรมชาติที่หาง่าย ผลงานมีระยะเวลาในการคงอยู่ในระยะสั้น ๆ ไม่คงทนถาวร คามลักษณะของวัสดุ โดยเป็นการนำหยวกกล้วยมาฉลุลวดลายประดับตกแต่งในงานต่างๆ ทั้งงานมงคลและงานอวมงคล ได้แก่ งานบวช งานโกนจุก งานกฐิน ทําบุญขึ้นบ้านใหม่ งานพิธีทางศาสนา ทําบุษบกแห่พระวันออกพรรษา และ งานศพ เป็นต้น (กันยา อื้อประเสริฐ และเกษร แสนสุวรรณ์. 2549)
ศิลปะการแทงหยวกเมืองเพชรบุรี เป็นศิลปะพื้นบ้านที่มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เข้ามาในเพชรบุรีตอนปลายของอยุธยา และพัฒนาสืบต่อกันเรื่อยมาทั้งรูปแบบและวิธีการจนกลายเป็นศิลปะของเพชรบุรี ซึ่งการผสมผสาน วิวัฒนาการ และการประยุกต์ศิลปะการแทงหยวกให้เป็นลักษณะของเพชรบุรี เป็นไปอย่างรวดเร็วและกลมกลืน เนื่องจากเพชรบุรีเป็นเมืองช่างศิลปะแต่ดั้งเดิม มีสกุลช่างต่าง ๆ มากมาย ซึ่งเป็นช่างพื้นเมืองที่ได้รับการเรียนรู้ถ่ายทอดกันในหมู่ของตน มีศูนย์รวมของช่างแต่ละสกุลอยู่ตามวัดต่าง ๆ เช่น สกุลช่างวัดใหญ่สุวรรณรามฯ สกุลช่างวัดเกาะ สกุลช่างวัดพระทรง สกุลช่างวัดยาง เป็นต้น (พูลสวัสดิ์ มุมบ้านเซ่า, 2543)
เมื่อค้นหาความเป็นมาของงานแทงหยวกในพงศาวดาร พบว่า สยามประเทศ หรือประเทศไทยในปัจจุบัน เป็นชาติแรกและชาติเดียวในโลก ที่มีงานช่างแทงหยวก ถือเป็นงานช่างของคนไทยโดยแท้จริง ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ปรากฏว่ามีชาติใดใช้งานแทงหยวกมาประกอบพิธีกรรมต่างๆ และคุณวิริยะ สุสุทธิ ในฐานะทายาทผู้สืบสานงานงานแทงหยวกสกุลช่างเมืองเพชรบุรีคนหนึ่ง ได้เป็นผู้ไปขอจดลิขสิทธิ์งานแทงหยวกไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้คนไทยภูมิใจว่า งานแทงหยวก ต้นกำเนิดมาจากเมืองไทยโดยแท้จริง
และช่างแทงหยวกของเมืองเพชรบุรีหลายท่าน ได้มีโอกาสถวายงานตกแต่งพระจิตกาธานในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศ์หลาย ๆ พระองค์ อาทิ พิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี, สมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนาฯ, สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นต้น
ความเป็นมาและความสำคัญ
เมื่อค้นหาความเป็นมาของงานแทงหยวกในพงศาวดาร พบว่า สยามประเทศ หรือประเทศไทยในปัจจุบัน เป็นชาติแรกและชาติเดียวในโลก ที่มีงานช่างแทงหยวก ถือเป็นงานช่างของคนไทยโดยแท้จริง ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ปรากฏว่ามีชาติใดใช้งานแทงหยวกมาประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ และคุณวิริยะ สุสุทธิ ในฐานะทายาทผู้สืบสานงานแทงหยวกสกุลช่างเมืองเพชรบุรีคนหนึ่ง ได้เป็นผู้ไปขอจดสิทธิบัตรงานแทงหยวกไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้คนไทยภูมิใจว่า งานแทงหยวก ต้นกำเนิดมาจากเมืองไทยโดยแท้จริง
ความสำคัญของการแกะสลักหยวกกล้วยที่ปรากฎในวรรณคดี ขุนช้างขุนแผน เมื่อพระไวยกล่าวถึงการทำพี้ว่า ให้ขุดศพนางวันทองขึ้นมา แล้วกล่าวถึงการทำพิธีว่าสถานที่วางหีบศพนั้นตกแต่งอย่างสวยงามเเละวิจิตรพิสดารเป็นรูปภูเขา มีน้ำตกมีสัตว์ต่างๆ มีกุฏิพระฤษี มีเทวดา เช่น รามสูร เมขลา ที่ตั้งศพที่เป็นภูเขานี้เห็นจะเป็นประเพณีไทยที่เก่าเเก่ ที่ทำเช่นนั้นก็คงหมายถึงว่า เขาพระสุเมรุคงเป็นที่เทวดาอยู่ตรงกับสวรรค์ ผู้ตายนั้น ถือว่าจะต้องไปสวรรค์ เช่น พระเจ้าแผ่นดินตาย เรียกว่า “สวรรคต” จึงนิยมทำศพให้เป็นภูเขา พระสุเมรุหรือเมรุ คือ ทำที่ตั้งเป็นภูเขาทั้งสิ้น ต่อมาคงจะเปลี่ยนแปลงไป เช่น งานหลวงเล็กทำเป็นภูเขา เปลี่ยนทำเป็นเครื่องไม้เพราะอาจทำให้สวยงามให้เป็นชั้นลดหลั่นลงมาเป็นเหลี่ยมจะหักมุมย่อให้วิจิตรพิสดารอย่างใดก็ได้ เเต่เเม้จะเอาภูเขาพระสุเมรุ จริง ๆ ออกไปก็ยังคงเรียกเมรุตามที่เคยเรียกมา เมรุ จึงกลายเป็นที่ตั้งศพไป
บ้างก็ว่าศิลปะการแทงหยวกเกิดขึ้นจากสมัยพระนเรศวรมหาราชล่าแผ่นดิน ในสมัยก่อนช่างอันดับ 1 คือ ช่างเหล็ก อันดับ 2 คือช่างแทงหยวก ไปรบที่ไหนก็ตายที่นั่น เผาที่นั่น ใช้ไม้ไผ่เป็นเชิงตะกอน แล้วนําหยวก (ต้นกล้วย) มาคุมเชิงตะกอนก่อนจะเผา แล้วพัฒนาหยวกให้เกิดลวดลายที่สวยงาม จนเกิดคุณค่าแห่งความงามต่อสังคมไทยเรา ในการแทงหยวกจะช่วยพัฒนาสังคมในด้านจิตใจ ให้คนเห็นคุณค่า “ปรัชญา” ความสดสวย ไม่ช้าก็เหี่ยวแห้งเป็นธรรมดาตามหลักศาสนา
ศิลปะการแทงหยวกในเพชรบุรี เป็นศิลปะพื้นบ้านที่มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เข้ามาในเพชรบุรีตอนปลายของอยุธยา และพัฒนาสืบต่อกันเรื่อยมาทั้งรูปแบบและวิธีการจนกลายเป็นศิลปะของเพชรบุรี ซึ่งการผสมผสาน วิวัฒนาการ และการประยุกต์ศิลปะการแทงหยวกให้เป็นลักษณะของเพชรบุรี เป็นไปอย่างรวดเร็วและกลมกลืน เนื่องจากเพชรบุรีเป็นเมืองช่างศิลปะแต่ดั้งเดิม มีสกุลช่างต่าง ๆ มากมาย ซึ่งเป็นช่างพื้นเมืองที่ได้รับการเรียนรู้ถ่ายทอดกันในหมู่ของตน มีศูนย์รวมของช่างแต่ละสกุลอยู่ตามวัดต่าง ๆ เช่น สกุลช่างวัดใหญ่สุวรรณรามฯ สกุลช่างวัดเกาะ สกุลช่างวัดพระทรง สกุลช่างวัดยาง เป็นต้น (พูลสวัสดิ์ มุมบ้านเซ่า, 2543)
ศิลปะการแทงหยวกของเพชรบุรี แต่เดิมใช้ตกแต่งเมรุในพิธีเผาศพ ซึ่งเมรุที่ทำขึ้นเพื่อเผาศพของเพชรบุรีมีธรรมเนียมแตกต่างไปจากที่อื่น นิยมสร้างเมรุให้มีความวิจิตรสวยงาม ใช้เวลาสร้างเมรุเป็นเวลานาน การออกแบบก่อสร้างเป็นฝีมือของสกุลช่างเมืองเพชรบุรี การตั้งเมรุใช้โกศบรรจุแทนโลงศพ ในส่วนฐานเมรุลูกโกศจะมีการแทงหยวกประดับอย่างสวยงาม เป็นการทำคล้ายพิธีหลวงแห่งราชสำนัก ซึ่งความจริงสามัญชนไม่มีระเบียบปฏิบัติได้ เข้าใจว่าคนเพชรบุรีทำกันมานานจนเป็นประเพณีนิยม ซึ่งประเพณีการตั้งเมรุเผาศพกลางแจ้งแบบโบราณนี้ ในปัจจุบันยังนิยมสืบสานต่อกันมาแต่เป็นส่วนน้อย อันเนื่องมาจากค่าใช้จ่ายในการประกอบพิธีค่อนข้างสูงมาก ถ้าเปรียบเทียบกับการเผาศพในเมรุแบบถาวร ซึ่งมีอยู่ทั่วไปตามวัดต่าง ๆ นอกจากนี้ยังสามารถนำศิลปะการแทงหยวกไปใช้ในพิธีมงคลต่าง ๆ ได้ เช่น งานเข้าพรรษา ออกพรรษา กฐิน ผ้าป่า เทศกาลสงกรานต์ หรือประกอบตกแต่งสถานที่ในงานสำคัญต่างๆ แม้พิธีกรรมต่างๆ ในศาสนาคริสต์ ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า งานแทงหยวกเป็นเอกลักษณ์ที่ยืนยันความเป็นไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ
อีกทั้งช่างแทงหยวกของเมืองเพชรบุรีหลายท่าน ได้มีโอกาสถวายงานตกแต่งพระจิตกาธานในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศ์หลาย ๆ พระองค์ อาทิ พิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี, สมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนาฯ, สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นต้น
แต่ในปัจจุบันศิลปะการแทงหยวกนับวันก็จะหมดไปกับวัฒนธรรมเก่า ประเพณีต่าง ๆ โดยความเร่งรีบทางประเพณี เวลา วัฒนธรรมใหม่ ๆ มาทําให้พิธีการนั้นต้องเร่งรีบตามกันไป ศิลปะการแทงหยวกที่ใช้ประกอบตกแต่งเชิงตะกอนก็หมดไป เพราะมีงานศพต่างก็ต้องรีบ จัดงานให้เสร็จไป มีความจําเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการอนุรักษ์ไว้ ทั้งประเพณีเดิม วัฒนธรรมเดิม สังคมวิถีชีวิตเดิม และศิลปะเดิมควบคู่กันไป จะทําให้ศิลปะการแทงหยวกนั้นยังคงอยู่และมีให้เห็น โดยเฉพาะควรมีการส่งเสริมอย่างลึกในทุก ๆ ด้าน ทั้งทางด้านตัวบุคคล องค์ภูมิปัญญาที่ต้องมีการดูแลและสนับสนุนให้องค์ภูมิปัญญาด้านการแทงหยวกมีชีวิตความเป็นอยู่ที่พอจะเป็นแหล่งความรู้ได้ดี
องค์ความรู้เกี่ยวกับการแทงหยวก
หยวก คือ ลำต้นกล้วยที่นำมาลอกออกมาเป็นกาบหรือแกนอ่อนของลำต้นกล้วย มีสีขาว งานเเทงหยวกมักใช้หยวกหรือกาบกล้วยตานี เพราะมีสีขาวดีและไม่สู้ที่จะเปลี่ยนสีเร็วนัก หากไม่มีกล้วยตานีจริง ๆ ก็สามารถใช้กล้วยน้ำว้าก็ได้
งานแทงหยวก คือ การนำเอากาบกล้วยมาทำให้เป็นลวดลายต่างๆ โดยวิธีแทงด้วยมีดเเทงหยวกใช้สำหรับการประดับตกเเต่งที่เป็นงานชั่วคราว ตัวอย่างเช่น การประดับเบญจารดน้ำ ประดับร้านม้าเผาศพ ประดับจิตรกาธารการเเกะสลัก หยวกกล้วยนั้นเดิมจะทำในพิธีโกนจุก และงานศพ
การแทงหยวก เป็นวิชาความรู้ที่ถ่ายทอดกันมาตั้งแต่อดีต โดยใช้วัสดุที่หาง่าย คือ ต้นกล้วย มาสร้างงานฝีมือ ซึ่งมักใช้ในงานมงคลต่าง ๆ อาทิ งานโกนจุก งานบวช งานกฐิน งานผ้าป่า งานเข้าพรรษา ออกพรรษา เทศกาลสงกรานต์ เป็นต้น ตลอดจนงานอวมงคล หรืองานศพ มักใช้การแทงหยวกกล้วยตกแต่งประดับประดาเมรุเผาศพ นอกจากนี้ยังใช้การแทงหยวกในการประกอบตกแต่งสถานที่ในงานสำคัญต่างๆ ในศาสนาคริสต์ และงานตกแต่งอื่นๆ สืบทอดกันมาหลายร้อยปี
การสลักหยวกหรือการแทงหยวก เป็นงานฝีมือช่างประเภทหนึ่งที่อยู่ในช่างสิบหมู่ ประเภทช่างสลักของอ่อน ย้อนหลังไปประมาณ 20-30 ปี ขึ้นไป มีประเพณีที่เกี่ยวกับการแทงหยวกกล้วยอยู่ 2 อย่าง คือ การโกนจุกเเละการเผาศพ (โดยเฉพาะศพผู้ที่มีฐานะปานกลาง) งานโกนจุกหรือประเพณีการโกนจุก จะมีการจำลองเขาพระสุเมรุ ตามความเชื่อ เเล้วตกเเต่งภูเขาด้วยรูปสัตว์ต่างๆ ส่วนภูเขาพระสุเมรุจะตั้งอยู่ตรงกลางร้านม้า ซึ่งทำโครงสร้างด้วยไม้เเล้วหุ้มด้วยหยวกกล้วยเเกะสลักเป็นลวดลายต่างๆ ประเพณีการเผาศพก็เช่นกัน จะทำ ร้านม้า ซึ่งทำโครงสร้างด้วยไม้แล้วประดับด้วยหยวกกล้วยแกะสลักอย่างงดงาม
ในปัจจุบัน คำว่า “ร้านม้า” จะไม่ค่อยได้ยินบ่อยนักหรือบางคนอาจจะไม่เคยได้ยินเลยก็ว่าได้ หรือ อาจจะได้ยินแล้วก็ตีความตามรูปคำไปเลยว่าเป็นที่ม้าอยู่อาศัยหรือที่เลี้ยงม้า ขายม้า จึงขอนำเสนอเรื่องร้านม้า เเละการสลักหยวกกล้วย (เเทงหยวก)
การสลักหยวกหรือการแทงหยวกนั้น ผู้ที่เป็นช่างจะต้องได้รับการฝึกหัดจนเกิดความชำนาญพอสมควร เพราะการสลักหยวกกล้วยนั้นช่างจะไม่วาดลวดลายลงไปก่อน จับมีดได้ก็ลงมือสลักกันเลยทีเดียว จึงเรียกตามการทำงานนี้ว่า “การแทงหยวก” ประกอบกับมีดที่ใช้มีปลายเเหลม เมื่อพิจารณาดูเเล้วก็เหมาะสมที่จะเรียกว่า “แทงหยวก” ต่อมามีการศึกษาวิจัยงานแทงหยวกและผู้วิจัยเสนอให้ใช้คำเรียกขานงานแทงหยวกว่า "จำหลักหยวก"
เอกลักษณ์การแทงหยวกของช่างเมืองเพชรบุรี
ความเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะการแทงหยวกจังหวัดเพชรบุรี เป็นองค์ความรู้ที่เกิดจากการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น มีความเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากที่อื่น คือ การแทงหยวกแบบฟรีแฮนด์ สามารถแทงหยวกได้โดยไม่ต้องวาดลวดลายลงบนกาบกล้วย การนําลักษณะของธรรมชาติมาดัดแปลงเป็นลวดลายในการแทงหยวก การประยุกต์ใช้สีเคมีทําการแรลาย และการแกะสลักเครื่องสดมาประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงาม (ดวงจันทร์ สุสุทธิ. 2551)
ตามคํากล่าวของช่างประสม สุสุทธิ ที่ว่า เอกลักษณ์การแทงหยวกของเมืองเพชร ช่างแทงหยวกต้องมีการเรียนรู้ลวดลายที่จะแทงหยวกให้อยู่ในความทรงจําอย่างแม่นยํา เวลาปฏิบัติการแทงหยวก จะไม่ต้องใช้แบบลวดลายไปวางไว้บนหยวก ช่างแทงหยวกทุกคนสามารถแทงลวดลายต่างๆ แบบฟรีแฮนด์ได้เป็นอย่างดี
คํากล่าวของช่างเลี่ยม เครือนาค ได้กล่าวว่า เอกลักษณ์การแทงหยวกของเมืองเพชร แตกต่างจากที่อื่น คือ การแทงหยวกแบบฟรีแฮนด์ ช่างสามารถแทงหยวกได้เลย โดยไม่ต้องวาดลายก่อน ฝึกฝนโดยการเขียนลายไทยให้คล่องก่อนแล้วแทงหยวกได้เลย
ช่างสาลี่ แสนสุด กล่าวว่า การแทงหยวกของจังหวัดเพชรบุรีที่แตกต่างจากที่อื่น คือ ช่างต้องรู้ลายและจําลายไทยได้อย่างแม่นยําพร้อมที่จะแทงลวดลายบนหยวก(กาบกล้วย) ได้โดยมิต้องเขียนลวดลายหรือลอกลายใส่ลงไปบนหยวก ฉะนั้นจึงถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นซึ่งไม่มีใครหรือจังหวัดใดทําได้เช่นนี้ และลวดลายที่ใช้ในการแทงหยวกจะมีการดัดแปลง และประยุกต์นําลายไทยมาใช้ โดยใช้การเลียนแบบธรรมชาติ มาสร้างสรรค์ลายบนหยวกให้เกิดความสวยงาม และเป็นแบบเฉพาะ เป็นเอกลักษณ์ของช่างแทงหยวกเมืองเพชรบุรี
ช่างวิริยะ สุสุทธิ ได้กล่าวว่า มีการประยุกต์ลายที่ใช้ในการแทงหยวก โดยการเลียนแบบธรรมชาติ เป็นลายธรรมชาติ ซึ่งมีความอ่อนช้อยงดงาม โดยได้จากเถาไม้เลื้อยนํามาดัดแปลงเป็นลายกนกเปลว สาหร่ายหรือปะการังใต้ทะเลนํามาดัดแปลงเป็นลายกนกสาหร่าย ลายรักร้อยได้มาจากดอกรักที่นํามาร้อยเป็นพวงมาลัย แม้กระทั่งพุ่มหางสัตว์ เช่นหางสิงโตนํามาดัดแปลงเป็นลายหางโต หรือจากใบไม้ เช่น ใบเทศนํามาดัดแปลงเป็นลายกนกใบเทศ และลายต่างๆ อีกมากมายประกอบด้วย ลายเกสรกระจังรวน ลายกระจังปฏิญาณ และลายกลีบบัวที่ช่างแทงหยวกได้นํามาดัดแปลงจนเกิดเป็นลายเฉพาะของช่างแทงหยวกเมืองเพชรบุรีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มาประกอบกับลายดั้งเดิม คือ ลายฟันปลา ลายฟันสาม และลายฟันห้า นอกจากนี้ยังมีลวดลายที่ใช้ประกอบการแทงหยวก เช่น ลายหน้ากระดานรักร้อย ลายหน้ากระดานรัดเกล้า ลายหน้ากระดานกนกเปลว ลายหน้ากระดานลูกฟักก้ามปู ลายเถา ลายกนกใบเทศ ลายเสาต่อยอด ลายเสาหางโตซึ่งช่างจะต้องมีความชํานาญในการแทงลวดลายเป็นพิเศษที่จะต้องวางลวดลายให้อยู่บนกาบกล้วยที่มีพื้นที่จํากัด อันเป็นจุดเด่นเฉพาะของเมืองเพชร อีกทั้งประยุกต์ลายน่องสิงห์พัฒนาเป็นลายสาหร่ายประกอบการทําเสา เกิดความแปลกตาละเอียด อ่อนช้อย สวยงาม (ดวงจันทร์ สุสุทธิ. 2551)
วัสดุและอุปกรณ์ในการแทงหยวก ประกอบด้วย
1. หยวก ใช้หยวกจากต้นกล้วยตานี เพราะไม่แตกง่าย ปัจจุบันต้นกล้วยตานีหายาก และมีขนาดไม่เหมาะสมสำหรับใช้งาน จึงนิยมใช้ต้นกล้วยน้ำว้าแทน โดยต้องเป็นต้นกล้วยน้ำว้าสาว คือต้นกล้วยที่ยังไม่มีเครือ หรือยังไม่ออกหวีกล้วย ต้นกล้วยจะอ่อนแทงลวดลายได้ง่าย |
|
2. มีดแทงหยวก โดยการตีดิบ ไม่ต้องเอาไปเผาไฟ มีความคมทั้งสองด้าน ปลายแหลมคม ส่วนด้ามจับก็ทำตามความถนัดของช่างแต่ละคน |
|
3. มีดปาด สำหรับการตกแต่งมุมหยวกกล้วย และตัดหยวกให้เกิดความสวยงาม |
|
4. กระดาษสีอังกฤษ ใช้สำหรับรองรับลวดลายต้นกล้วยให้ปรากฏชัดเจน |
|
5. ตอก ใช้สำหรับประกอบหยวกเข้าเป็นส่วนต่าง ๆ |
|
6. ไม้กลัด สำหรับยึดเหนี่ยวหยวกกับโครงสร้างเนื้ออ่อน |
ขั้นตอนการแทงหยวกกล้วย
- การไหว้ครู เพื่อรำลึกถึงครูอาจารย์ มีธูป 3 ดอก เทียนขี้ผึ้ง 1 เล่ม ดอกไม้ 3 สี สุรา 1 ขวด ผ้าขาวม้า 1 ผืน เงินค่าครู 142 บาท หรือขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมความเชื่อของคนในแต่ละท้องถิ่นซึ่งอาจมีขั้นตอนการไหว้ครูไม่เหมือนกัน
- เลือกต้นกล้วยตานีหรือต้นกล้วยน้ำว้าต้นสาว ๆ คือ ต้นกล้วยที่ยังไม่ออกผล ถ้าออกปลี ออกลูกแล้วจะใช้ไม่ได้ เพราะกาบกล้วยจะกรอบเปราะหักง่าย แต่ถ้าเป็นต้นกล้วยที่ยังสาว ๆ ไม่มีลูกกาบกล้วยจะอ่อนเหนียวไม่หักง่าย ต้องเลือกต้นใหญ่พอสมควร ร้านม้าเผาศพทั่วไปจะใช้ประมาณ 10 ต้น ต่อร้านม้า 1 ครั้ง
- เมื่อได้ต้นกล้วยมา ก็จะลอกกาบกล้วยออกเป็นกาบๆ จนถึงแกนของลำต้นให้เหลือประมาณ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2.5-3 นิ้ว เอาไว้ทำฐานล่างเมื่อลอกกาบกล้วยออกมาแล้วก็ต้องคัดขนาด คือกาบใหญ่ๆ รอบนอกก็เอาไว้สำหรับแทงลาย ต่าง ๆ ส่วนกาบเล็ก ๆ ก็ใช้ทำอกกลาง
- แทงลวดลายบนหยวกกล้วยให้เป็นลวดลายต่าง ๆ ควรมีการวางแบบและพุดคุยกันในกลุ่มช่างแทงหยวกก่อนว่า จะมีรูปแบบในภาพรวมอย่างไร แล้วค่อยแบ่งหน้าที่กันแทงหยวกตามความถนัดของช่าง วิธีการแทงหยวกให้เกิดลวดลายต่าง ๆ เป็นงานที่ต้องอาศัยความชำนาญ มิฉะนั้นจะเกิดความเสียหายได้ง่าย สิ่งที่ควรคำนึงคือ การจับมีด ต้องให้มีดตั้งฉากกับหน้าตัดของหยวก จะทำให้รอยตัดตั้งฉากสวยงาม ดังรูป
ซึ่งการแทงหยวกมีลวดลายไม่กี่ชนิด อาทิ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
- การประกอบเป็นลายชุด เมื่อทำลวดลายต่างๆ ได้เพียงพอตามความต้องการเเล้วถึงขั้นตอนการประกอบหยวก เพื่อให้งานมีสีสันสดใส อาจใช้กระดาษสีมันวาวหรือกระดาษสีอังกฤษประกอบเป็นพื้นบนหยวกเรียกว่า “พนัง” จะส่งผลให้ลวดลายปรากฎเด่นชัดยิ่งขึ้น โดยพนังจะคัดเลือกกาบกล้วยที่อยู่ด้านนอก
- นำหยวกที่ประกอบลายแต่ละส่วนแล้วไปประดับตกแต่งตามโครงสร้างต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ เพื่อทำเป็นเสาล่าง พรึง เสาบน รัดเกล้าเเละฐานล่าง โดยใช้ตอกผิวไม้ไผ่เย็บให้ติดกัน เเล้วติดเเต่งมุมให้เรียบร้อยเป็นอันเสร็จ
แนวทางการอนุรักษ์ศิลปะการแทงหยวก
- การใช้คำเรียกขานชื่องานแทงหยวก ควรใช้คำว่า "จำหลักหยวก" แทนคำว่า "แทงหยวก" ซึ่งมีความหมายเช่นเดิม แต่เมื่อได้ยิน ได้ฟัง ได้เห็น ก็จะเกิดสุนทรีย
- ควรบรรจุรายวิชาการจำหลักหยวกลงในหลักสูตรของนักเรียน นักศึกษา ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา ตลอดจนอุดมศึกษา
- ควรเชิญช่างฝีมือพื้นบ้านหรือช่างจำหลักหยวกผู้มีความเชี่ยวชาญมาเป็นวิทยากรพิเศษให้แก่สถานศึกษา
- ครู อาจารย์ ผู้สอนทางด้านศิลปะ ควรใฝ่รู้ในศิลปะวิทยาการท้องถิ่นอันเป็นภูมิปัญญาของชาติ
- ควรมีสถานที่จัดแสดงผลงานของช่างฝีมือและผู้สนใจ อาทิ หอศิลป์, ศูนย์เรียนรู้, พิพิธภัณฑ์, โรงละคร ตลอดจนกิจกรรม/งานต่าง ๆ ทางวัฒนธรรม เป็นต้น
- จัดการประกวด การคัดสรร และการยกย่องผู้มีผลงานดีเด่น เป็นการประกาศเกียรติคุณของคนดีมีฝีมือ
- เผยแพร่องค์ความรู้ด้านการจำหลักหยวกในรูปแบบต่าง ๆ อย่างถูกต้อง ครบถ้วน ตามช่องทางต่าง ๆ อาทิ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อมัลติมีเดีย, เว็บไซต์, โทรทัศน์, วิทยุกระจายเสียง, Socials Network ต่าง ๆ ตลอดจนการบรรยายและการสาธิต
- จัดหาและเชื่อมโยงแหล่งสร้างเครื่องมือการจำหลักหยวก
- ส่งเสริม สนับสนุนงานออกแบบสร้างสรรค์และงานวิจัยต่อยอดการสร้างสรรค์ผลงานหรือผลิตภัณฑ์จากการจำหลักหยวก ให้เหมาะกับสังคมปัจจุบัน
ศิลปินหรือช่างผู้สืบสานงานแทงหยวกเพชรบุรี
- นายพิณ อินฟ้าแสง (พ.ศ. 2438-2515) โดยครูหวน ตาลวันนา เป็นผู้ครอบครูและให้การแนะนำ
- นายเทศ ลอยพโยม (พ.ศ. 2450-2531) เป็นศิษย์ของพระอาจารย์เป้า ปัญโญ แห่งวัดพระทรง
- นายประสม สุสุทธิ (พ.ศ. 2464-2554) ครูช่างผู้ฟื้นฟู รวบรวมช่างและอนุรักษ์งานแทงหยวก เป็นศิษย์ของครูเลิศ พ่วงพระเดช และพระอาจารย์จันทร์ ศุภโร แห่งวัดมหาสมณาราม
- นายเลี่ยม เครือนาค (พ.ศ. 2472-2555) ครูช่างแทงหยวก
- นายหอม วงศ์ทองดี (พ.ศ. 2477) ครูช่างแทงหยวก
- นางสาลี่ แสนสุด
- ร.ต. เสนีย์ สุสุทธิ
- นายอเนก สุสุทธิ
- นายพิษณุ สุสุทธิ
- นายจักรี สุสุทธิ
- นายสงกรานต์ สุสุทธิ
- นายพัฒนา สุสุทธิ
- นายศานิต สุสุทธิ
- นายวิริยะ สุสุทธิ (พ.ศ 2513-ปัจจุบัน)
- นายสุรชัย จุ้ยมี
- นายสุพจน์ วงศ์ทองดี
- นายมุธิชัย จันพุฒ
Subject
Coverage
Date
Type
Language
Relation
อ้างอิง
หนังสือภายในห้องสมุด
- พูลสวัสดิ์ มุมบ้านเซ่า. (2543). ศิลปะการแทงหยวก. กรุงเทพฯ : คณะศิลปกรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
- สุนันท์ นีลพงษ์. (2549). กระบวนการปรับใช้งานจำหลักหยวกประกอบเครื่องสดในงานมงคล. เพชรบุรี : คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี.
- วิทยาลัยครูเพชรบุรี สหวิทยาลัยทวารวดี. (2537). เอกสารประกอบการพิจารณาเพื่อเสนอให้ปริญญากิตติมศักดิ์สาขาวิชาศิลปะศาสตร์ สายศิลปกรรมศาสตร์และศิลปะประยุกต์ โปรมแกรมวิชาศิลปกรรม. เพชรบุรี : วิทยาลัยครูเพชรบุรี.
- พระราชทานเพลิงศพ ผศ.บัวไทย แจ่มจันทร์. (2542). ช่างเมืองเพชร. เพชรบุรี : เพชรภูมิการพิมพ์.
- สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเพชรบุรี. (2539). สถาปัตยกรรมเรือนยอดจังหวัดเพชรบุรี. เพชรบุรี : สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเพชรบุรี.
เว็บไซต์
- ห้องสมุดเมืองเพชร (2553). การแทงหยวกภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านศิลปะ. สืบค้น 12 ก.พ. 2562. จาก https://www.muangphet.com/library/tangyuak/index.html
สื่ออิเล็กทรอนิกส์
- กันยา อื้อประเสริฐ และเกษร แสนสุวรรณ์. (2549). ศิลปะการแทงหยวกของเพชรบุรี. นครปฐม : หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยศิลปากร.
- ดวงจันทร์ สุสุทธิ. (2551). ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านศิลปะการแทงหยวกจังหวัดเพชรบุรี. สารนิพนธ์ กศ.ม. (ธุรกิจศึกษา). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
วีดีโอที่เกี่ยวข้อง
- SACICTchannel. (2558). ครูศิลป์ของแผ่นดิน 2 : ครูประสม สุสุทธิ. https://www.youtube.com/watch?v=0ZS6ERuAhEk
- MySurdi. (2559). ช่างแทงหยวกเพชรบุรี. https://www.youtube.com/watch?v=riQnlg5IMvQ
- NBT 2HD. (2560). ราชันผู้ยิ่งใหญ่ ตอน ช่างแทงหยวก 25 ต.ค.60. https://www.youtube.com/watch?v=H7TyTUjvrMc
- Ronnachai Khonsagul. (2556). แทงหยวก1. https://www.youtube.com/watch?v=n_pQfTJvkDE
- Phoomin Chaisangdune. (2561). ศิลปะการแทงหยวก. https://www.youtube.com/watch?v=sXn7KnRvz7M
- ThaiPBS. (2560). หัวใจของแผ่นดิน : เตรียมงานแทงหยวกประดับพระจิตกาธาน (6 ต.ค. 60). https://www.youtube.com/watch?v=kVTW6Se_DPQ
- SACICTchannel. (2558). ทายาทหัตถศิลป์ พ.ศ. 2557 : คุณวิริยะ สุสุทธิ. https://www.youtube.com/watch?v=tiAftGCDC1g
- มหาวิทยาลัยศิลปากร, คณะศึกษาศาสตร์ ภาควิชาเทคโนโลยีการศึกษา. (2557). ศิลปะการแทงหยวก อ.วิริยะ สุสุทธิ. https://www.youtube.com/watch?v=rcE7W0tWDxo